หนึ่งในผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวที่ทุกคนต้องมีและใช้เป็นประจำ นั่นคือ ครีมกันแดด เพราะถึงแม้ว่าเมืองไทยของเราจะมี 3 ฤดูกาล แต่ว่าในทุกฤดูกาลแดดจะแรงมากๆ ถ้าหากคุณไม่ใช้กันแดด อาจทำให้ผิวของคุณหมองคล้ำและเกิดปัญหาจุดด่างดำต่างๆ และในวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องครีมกันแดดกันว่าคืออะไร และเราจะเลือกใช้อย่างไรดี
เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน
ครีมกันแดดคืออะไร
ครีมกันแดด คือ ครีมที่มีสารปกป้องแสงแดดที่ช่วยปกป้องอันตรายที่เกิดจากรังสียูวีเอและยูวีบี เพราะรังสีเหล่านี้ส่งผลต่อผิวหนังของคุณโดยตรง และอาจทำให้ผิวของคุณนั้นอ่อนแอ เกิดความหมองคล้ำ ริ้วรอยและจุดด่างดำได้ และที่สำคัญอาจทำให้เกิดปัญหาผิวเรื้อรังอีกด้วย
ประเภทของครีมกันแดดมีอะไรบ้าง
ชนิดเคมี มีส่วนผสมของสารเคมี โดยจะดูดซับรังสีเข้าผิวและเปลี่ยนกลับเป็นความร้อน เพื่อไม่ให้ผ่านลงชั้นผิวหนังได้ ส่วนใหญ่เนื้อครีมจะเป็นครีมข้นๆสีขาว และถ้าโดนแดดไปสักพักกันแดดสารเคมีจะเสื่อมสภาพ จึงต้องทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง เป็นต้น
ส่วนกันแดดแบบกายภาพ จะมีส่วนผสมของสารที่สะท้อนรังสี UVA หรือ UVB ที่ตกกระทบออกไปจากผิวหนังได้ แม้ว่าจะระคายเคืองน้อยกว่าแบบแรก แต่ว่าก็ให้ค่า SPF ต่ำ และเวลามาทาบนผิวอาจจะดูขาววอกเกินไป เพราะสารจะเคลือบบนผิวเพื่อรอแสงมากระทบ ทำให้ดูดซึมได้น้อยจึงทำให้ผิวดูวอกนั่นเอง
กันแดดแบบผสม เป็นแบบผสมที่ช่วยเสริมข้อดีและลดข้อด้อยของกันแดดทั้ง 2 ส่วน เพิ่มประสิทธิภาพในการกันแดดมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ชนิดของรังสียูวีที่คุณควรรู้มีอะไรบ้าง
-รังสียูวีเอ เป็นรังสีคลื่นยาวที่สามารถเข้าทำลายผิวถึงชั้นเล็กๆหรือผิวหนังชั้นล่างได้ และที่สำคัญรังสีตัวนี้ยังเป็นตัวทำลายคอลลาเจนและความชุ่มชื่นของผิวหนังด้วย ถ้าหากโดนรังสีตัวนี้บ่อยๆ จะทำให้ผิวเกิดริ้วรอยลึก ฝ้ากระต่างๆ ได้ ส่วนรังสียูวีบี ถือเป็นรังสีคลื่นกลางที่ทะลุถึงชั้นหนังกำพร้า อาจทำให้ผิวของคุณไหม้แดด ทำให้ผิวของเราหมองคล้ำลงได้
ค่ารังสีที่ปกป้องแสงแดด คืออะไร
ค่า PA ที่อยู่ในครีมกันแดดนั้นจะช่วยปกป้องแสงแดดได้ โดยค่าพีเอนี้จะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีเอและในผลิตภัณฑ์กันแดดจะมี PA +++ โดยเครื่องหมาย +++ ที่ตามหลังนั้น คือความสามารถในการป้องกันแสงแดด ยิ่งมีจำนวน + มากก็ยิ่งช่วยปกป้องแสงแดดได้มากนั่นเอง
ค่า SPF นี้จะช่วยปกป้องรังสียูวีบี ลดการเกิดรอยแดงของผิวหนังลงได้ แต่ระยะเวลาการเกิดอารแดงของผิวหนังก็ต่างกันด้วย ขึ้นอยู่กับสีผิวของคุณเอง เช่น ถ้าคุณมีผิวขาว ออกแดดไปเพียง 10 นาทีก็จะเกิดรอยแดงได้แล้ว แต่ถ้าคุณเป็นคนผิวดีหรือมีสีเข้มมากกว่าผิวจะเกิดรอยแดงก็ใช้เวลาถึงชั่วโมงเลยทีเดียว ส่วนตัวเลขที่ระบุไว้หลังค่า SPF เช่น SPF 50 คือ การใช้ระยะเวลานานกว่า 50 เท่าของเวลาที่จะทำให้ผิวแดงเมื่อเทียบกับตอนที่ยังไม่ได้ทาครีมกันแดด อย่างเช่น ถ้าหากผิวจะเริ่มแดงภายใน 10 นาที หมายความว่า SPF 50 นี้จะป้องกันผิวไม่ให้แดงได้นาน 500 นาที เป็นต้น แต่ถ้าเลยเวลานี้ไปแล้ว คุณต้องทากันแดดซ้ำอีกครั้งหนึ่ง และต้องบอกว่าไม่มีกันแดดตัวไหนกันแดดได้ทั้งหมด คุณจะต้องพยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดด้วย เพื่อให้การใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพด้วย
วิธีการเลือกครีมกันแดด เราจะเลือกอย่างไรดี
ต้องเลือกที่มีสารช่วยป้องกันแบบครบถ้วน เพื่อทำให้สามารถกันแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และควรเลือกกันแดดที่เหมาะกับการดำเนินชีวิตหรือการทำงาน เช่น ถ้าคุณทำงานในร่มควรเลือกใช้ SPF 15-20 แต่ถ้าคุณทำกิจกรรมกลางแจ้ง คุณก็ใช้ค่า SPF 20-30 แต่ถ้าต้องอยู่กลางแจ้งและมีแดดแรงอาจจะต้องใช้ SPF เกินกว่า 50 ขึ้นไป
สำหรับเครื่องสำอางที่มีสารป้องกันแสงแดดถ้าเป็นชนิดทนน้ำและทนเหงื่อ ต้องทาก่อนออกจากบ้านอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง เพื่อให้กันแดดซึมเข้าผิวหนังก่อนนั่นเอง และควรทาซ้ำๆด้วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องผิวของคุณได้
หากต้องลงเล่นน้ำก็ต้องเลือกกันแดดกันน้ำด้วย โดยควรเลือกที่ออกฤทธิ์นาน 40 นาทีและกันแดดสูงสุดได้นาน 80 นาที และต้องทาซ้ำๆด้วย เพื่อให้สามารถปกป้องได้อย่างสูงสุด
อย่างไรก็ตามการเลือกครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพนั้นต้องอ่านฉลากอย่างถี่ถ้วนและทดสอบก่อนซื้อด้วยว่าเรามีอาการแพ้หรือไม่ดูทั้งวันที่ผลิตและวันหมดอายุด้วย และต้องปฏิบัติตามฉลากผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้คุณใช้งานได้ถูกต้องที่สุด
ทั้งหมดนี้คือ ความหมายของครีมกันแดดและการเลือกซื้อที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนควรเรียนรู้ไว้ เพื่อจะได้ใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยที่สุด แต่ถ้าคุณเป็นมือใหม่ไม่รู้ว่าจะเลือกกันแดดแบบไหนดี ก็น่าจะเลือกยี่ห้อที่เป็นที่รู้จักเข้าไว้ เพราะว่าทำให้คุณมั่นใจได้เลยว่า คุณจะได้ใช้ผลิตภัณฑ์ทีมีคุณภาพอย่างแน่นอน